Forex คืออะไร เราจะทำเงินจากตลาด Forex ได้อย่างไร

Forex คืออะไร เป็นคำถามที่ได้ยินจากหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นด้วยความที่หลายต่อหลายคนอาจได้ยิน เคยเทรดหรือเพิ่งเข้ามารู้จัก Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล หรือ Foreign Exchange Market เป็นสถาบันตลาดการเงินที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายที่มหาศาลเกินกว่า 4 ล้านล้านเหรียญต่อวัน คิดเป็นประมาณ 3 เท่าของตลาดหุ้นในประเทศต่างๆทุกที่ในโลกรวมกัน นำมาซึ่งความยิ่งใหญ่ของตลาด Forex นั่นเอง

Forex คืออะไร

คนไทยส่วนใหญ่ เมื่อได้ยินคำว่า Forex บ้างก็จะนึกถึงการแทงสูงต่ำ บ้างก็เข้าใจในเชิงลบว่าฟอกเงิน ระหว่างประเทศ แต่ทุกคนก็ยังทราบด้วยว่า Forex เป็นแหล่งเงินที่มีความคล่องตัวสูงมาก จึงมีบุคคลบางกลุ่ม ปลอมตัวเป็นสิบแปดมงกุฎ นำมาหากินกับความโลภ ชักชวนผู้คนที่ไม่ได้ศึกษามาอย่างเพียงพอ ระดมทุนแล้วนำไปทำกำไรในตลาด Forex โดยเสนอตัวเลขเป็นผลตอบแทนรายปี รายเดือน หรือแม้กระทั่งรายสัปดาห์ ในจำนวนเงินที่มหาศาล เกิดการฟ้องร้อง และติดตามตัวกันมากมาย ดังในข่าวโทรทัศน์​ หรือหนังสือพิมพ์ ก่อให้เกิดมุมมองภาพลบกระจายกันเป็นวงกว้าง ทีนี้มาดูในมุมที่ถูกต้องกันบ้าง มุมของภาพเศรษฐกิจ ตลาด Forex เป็นตลาดที่ทำการซื้อหนึ่งสกุล และขายอีกหนึ่งสกุลได้ในทันที Realtime โดยค้าขายสกุลเงินต่างๆผ่ายตัวแทน โบรกเกอร์ (Broker) ซื้อขายกันเป็นคู่ต่างสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น เงินดอลลาร์ยูโร (EUR) กับ ดอลลาร์อเมริกา (USD) หรือ เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) กับ เงิน เยน ญี่ปุ่น (JPY)

ถ้ามองลึกลงไปอีกอาจคิดเสมือนกับว่าการซื้อสกุลเงินเป็นการซื้อหุ้นของประเทศนั้น ๆ เมื่อคุณซื้อเงิน เยน (JPY) ของ ญี่ปุ่นเท่ากับว่า คุณได้ทำการซื้อหุ้นเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศ เพราะค่าของสกุลเงินญี่ปุ่น สะท้อนเป็นผลโดยตรงถึงตลาดสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และแนวโน้มอนาคตของเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่น ตลาด Forex ไม่มีสถานที่ตั้ง หรือเป็นสำนักงานใหญ่ เหมือนตลาดหุ้นอื่นๆ ตลาด Forex เป็น Over the Counter (OTC) จัดเป็นประเภทธนาคาร “Interbank”  ตลาดทั้งหมดเดินด้วยการสื่อสาร Electronic ภายในเครือข่ายของธนาคารต่างๆเชื่อมโยงกันทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ เริ่มจากออสเตรเลีย ไปจบที่อเมริกา

Forex ทำงานอย่างไร

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ปัจจุบันคุณสามารถเลือกซื้อ-ขายคู่สกุลเงินในตลาด Forex ได้เกือบทุกสกุลเงินในโลก ซึ่งมีกว่า 200 คู่สกุลเงิน สกุลเงินหลัก ๆ ที่คนนิยมเทรดกัน ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์อังกฤษ (GBP), เยนญี่ปุ่น (JPY) ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และ แคนาดา (CAD) เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะเลือกเทรดสกุลหลักของโลกที่มีสภาพคล่องสูงเท่านั้น ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว   รวมถึงเงินบาทไทย (THB) ก็สามารถเทรดในตลาด Forex ได้เช่นเดียวกัน (แต่ไม่ได้นิยมในหมู่เทรดเดอร์ Forex มากนัก) จุดเด่นของตลาด Forex ยังมีอีกหลากหลาย เช่น การซื้อ-ขายสกุลเงินต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์  5 วันทำการ โดยหยุดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น ดังนั้นตามเวลาในประเทศไทยตลาด Forex จะเปิดตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ ไปจนถึงตี 4 ของเช้าวันเสาร์ ซึ่งเป็นไปตามช่วงเวลาทำการเปิดปิดตามตลาดเงินตราของประเทศนั้นๆ นั่นเอง ทีนี้เมื่อมีตลาดหนึ่งปิดทำการไป ก็จะมีอีกตลาดหนึ่งเปิดตามหมุนเวียนมาตลอดทั้งวันทั้งสัปดาห์​

Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งสองทาง คือ ได้ทั้งขาขึ้นและขาลง กล่าวคือ หากคาดการณ์ว่าตลาดมีแนวโน้มจะขึ้น ก็ให้ทำการ “Buy”  หรือถ้าคาดการณ์ว่าตลาดมีแนวโน้มจะลง ก็ทำการ “Sell”  ดังนั้นไม่ว่าตลาดจะบวกหรือลบ เราก็สามารถมีกำไรได้ และในทางกลับกันก็มีโอกาสให้เราขาดทุนได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะทางขึ้นหรือทางลง

เราจะทำเงินจากตลาด Forex ได้อย่างไร

คุณสามารถเริ่มต้นเป็นเทรดเดอร์ เพื่อลงทุนในตลาด Forex โดยสมัครสมาชิก และเปิดบัญชีเทรด กับโบรกเกอร์ในต่างประเทศ เพราะปัจจุบันยังไม่มีสถาบันการเงินในไทยที่รองรับการลงทุน หรือเก็งกำไรตลาด Forex และ Broker เมื่อเปิดบัญชีแล้ว Broker ส่วนใหญ่จะมี บัญชีทดลองให้เราใช้ทดสอบ เพื่อฝึกหัดใช้โปรแกรมจนเกิดความชำนาญ เมื่อพร้อมจึงทำการฝากเงินเข้าไปเพื่อทำการซื้อขายจริง

ตัวอย่างการซื้อ-ขาย ในตลาด Forex เช่น หากเราซื้อสกุลเงิน  USD/JPY ที่ราคา 112 หมายความว่า เรานำเงิน JPY จำนวน 112 เยน ไปซื้อเงิน USD จำนวน 1 เหรียญเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไป อัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY เปลี่ยนเป็น 115 นั่นแสดงว่า หากเราเอาเงินไปแลกคืน จะทำให้ได้กำไรส่วนต่าง 3 เยน (115-112) ตรงกันข้าม ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง USD/JPY ลดลง ก็จะทำให้เราขาดทุนนั่นเอง

Forex Indicators

Forex Indicators

อินดิเคตอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยเรียกว่า “อินดี้” เป็นเครื่องมืออันทรงพลังมากในการเทรด forex กล่าวคือ เป็นตัวชี้วัดในการเทรด forex  ใช้บอกข้อมูลสำหรับการเทรดของคุณผ่านชาร์ต อินดิเคเตอร์ บางตัวนั้นสามารถบอกจุดเข้า (Entry &Exit) ของคำสั่งซื้อ หรือคำสั่งขายได้ในตัวเดียวกัน โดยประโยชน์ของ อินดิเคตอร์

  • บอกจุดทำสัญญาณซื้อ หรือขายได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกจุดที่เราจะทำการปิดคำสั่งซื้อ (Entry &Exit)
  • บอกแนวโน้ม หรือ Trend ว่ากำลังเป็นไปในทิศทางใด หรือว่าคุณนั้นสามารถเทรดไปในทิศทางใดจึงจะคุ้มค่าความเสี่ยงมากที่สุด
  • ลดความเสี่ยงในการเทรด forex ให้เป็นมากกว่าการพนัน โดยสามารถคาดเดาระยะการทำกำไร และกำหนดจุดขาดทุน และสิ่งต่างๆได้จากชาร์ตนั่นเอง
  • ช่วยกำหนดจุด stop loss ให้คุณมีแผน และทำตามได้อย่างชัดเจน กว่ากราฟเปล่า ทำเป็นเสมือนเพื่อร่วมทางก่อนตัดสินใจเทรด หรือ Action ต่อไป

อินดิเคตอร์ที่เป็นที่นิยมได้แก่

  • เส้นเฉลี่ยค่าเคลื่อนที่ Moving Average (MA)

Moving Average หรือ MA เป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยม นักวิเคราะห์ทางเทคนิค ในการรันเทรนตามแนวโน้ม หาก Entry แล้วไม่หลุดจากเส้น MA ดังกล่าวจะ Let Profit run แต่หากราคายืนไม่ได้แล้ว จะทำการ Exit

  • MACD

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ คุณเพียงแค่ดูการตัดกันของเส้นกราฟ MACD จากนั้นถ้าตัดขึ้นก็เปิดออเดอร์ซื้อ หรือถ้าตัดลงก็เปิดออเดอร์ขาย เป็นอันจบกระบวนการ แต่ถ้าอยากพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกแนะนำให้ทำการทดสอบย้อนหลัง หรือ Backtest ค่า MACD เพื่อให้จับจังหวะการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

  • RSI (Relative Strange index)

คำนวณมาจากความเร็วของการเคลื่อนที่ของราคา โดยมี ตัวเลขที่นำมาใช้ในการวัดค่า RSI คือเลข 0-100 ซึ่งค่านี้จะถูกนำมาประกอบกับการตัดสินใจในการเทรดของเทรดเดอร์ นั่นเอง สำหรับการสังเกตค่า RSI นั้นในการเทรดจะมีการสังเกตในลักษณะดังนี้

  • หากค่า RSI มีค่ามากกว่า 70 ขึ้นไป ตีความว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดการซื้อมากเกินไป ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อาจเกิดแรงเทขายออกมาได้
  • หากค่า RSI มีค่าต่ำกว่า 30 ขึ้นไป ตีความว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดการขายมากเกินไป อาจกลายมาเป็นแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดได้

FX Robots

เกือบจะทุกวงการพูดถึงเรื่องปัญหาประดิษฐ์​ (AI) ในส่วนของ Forex Robots หรือ ระบบเทรด Forex อัตโนมัติ หรือ EA (Expert Advisers) ก็จัดเป็นกลุ่ม AI เช่นเดียวกัน ระบบอัตโนมัติ จะถูกเขียนโปรแกรมขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์ โดยใช้สัญญาณทางเทคนิค และสถิติ โดยที่มนุษย์ไม่ต้องเข้าไปทำอะไรเลย ตัวระบบเอง จะทำงานอย่างต่อเนื่อง มีการ Entry &Exit คำนวณอัลกอลิทึ่มทางคณิตศาสตร์ แล้วทำการวิเคราะห์กับราคาที่เกิดขึ้นในอดีต วิธีการคือนำเอา EA ใส่เข้าไปในโปรแกรมการเทรด Metatrader4 หรือ เรียกเทรดเดอร์ส่วนใหญ่เรียกว่า MT4 “เอ็ม ที โฟร์ว” จากนั้น  Robot ก็จะทำการเทรด product ต่างๆที่เทรดเดอร์เลือกเทรดให้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะแบ่งออกไปหลายรูปแบบ ตาม Logic  ผู้เขียน Robot หรือ EA มีเงื่อนไขการทำงาน สามารถออกแบบเขียนโปรแกรมการเทรดได้ตามระบบเทรด ( System Trading) ตามกลยุทธ์การเทรด (Strategy Trading) ที่ เทรดเดอร์มนุษย์สร้างขึ้น ในภาษาโปรแกรม MQL4-5

ขั้นตอนการเลือก Forex Broker ที่ดีที่สุดของคุณ

Forex Broker ที่ดีที่สุดของคุณ

การเป็นเทรดเดอร์ในตลาด forex จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะมี Broker ที่ดี เปรียบเสมือนกับนักแข่งรถต้องมีรถแข่ง และทีมงานที่ดีคอยซัพพอร์ต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุณต้องมองหา แพล็ตฟอร์ม  Forex ที่ดี และมีความสอดคล้องกับนิสัย หรือวิธีการเทรดของตัวคุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเลือก แพล็ตฟอร์ม   Forex มาก ด้วยเงื่อนไข และการบริการที่สอดคล้องกับตัวคุณ จะส่งผลให้คุณสามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้นนั่นเอง  โดย

  • เลือก Broker ภาษาไทยก่อน เพื่อให้เราสามารถติดต่อประสานงาน หรือสื่อสารปัญหาได้โดยง่าย
  • เลือก Broker ในการฝาก ถอนเงินได้โดยง่าย เช่นการโอนถอนเงินผ่านธนาคาร Internet Banking หรือ Mobile Banking ต่างๆ
  • เลือก Broker ที่มีการให้ความรู้ การเรียนการสอนที่ดี เพราะหมายถึงว่าผู้ให้บริการดังกล่าวใส่ใจกับลูกค้า ให้เรามีจุด Entry/Exit Position ได้ดีขึ้น

สรุปได้ว่าการเลือก broker forex ที่ดี และมีคุณภาพ จะช่วยสนับสนุนการเทรดของคุณให้มีความสุข และความไว้วางใจได้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยเป็นแรงหนุนในการทำให้คุณนั้นประสบความสำเร็จในการเทรดอย่างแน่นอน โดยผู้เขียนได้รีวิว แพล็ตฟอร์มที่น่าสนใจไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น IQ Option, Olymp Trade, Binary.comและ Expertoption

แพล็ตฟอร์มใด ที่คุณจะเลือก MT4 หรือ MT5

MT4 หรือ MT5

แพล็ตฟอร์ม MT4 และ MT5 นั้น มีความคล้ายคลึงกัน โดย MT 5 นั้น ได้ออกสู่ตลาดตั้งแต่วันที่ 1 June 2010 และใช้งานผ่านมาเป็นระยะเวลานานหลายปี ปัจจุบันนี้ปี 2018 แล้ว แต่ยังคงมีจำนวนผู้ใช้งานน้อย เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4 สาเหตุหลักเนื่องมากจาก ช่วงที่โปรแกรมเพิ่งออกนั้น MT5 ไม่รองรับกลยุทธ์การเทรดแบบ Hedging และช่วงเวลาเดียวกัน EA , Indicator ที่เคยใช้งานได้บน MT4 จะนำมาใช้บน MT5 ไม่ได้เพราะสถาปัตยกรรมโปรแกรมเขียนด้วยคนละภาษากัน

MT4 ใช้ทรัพยากรเครื่อง Ram,CPU ที่น้อยกว่า MT5 ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จึงไม่อยากเปลี่ยนไปใช้งาน MT5 และ Indicator, EA บน MT4 มีมากกว่า MT5 เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4 จึงอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจำนวนผู้ใช้งาน MT5 จะเพิ่มขึ้นถัดเทียมกับ MT4

ภาพรวม Forex ในประเทศไทย

ในแวดวงสังคมการเทรด Forex ในประเทศไทยจัดว่ามีอัตราการเติบโตที่สูง พบว่าเทรดเดอร์อิสระชื่อดังหลายท่าน ถูกเชิญให้เป็นวิทยากรในงาน Forex Event ต่างๆ มากมาย และปัจจุบันเทรดเดอร์ ที่เป็นนักลงทุนรายย่อย สามารถเทรด Forex ได้ตามปกติ แต่เทรดเดอร์ท่านนั้น ก็ต้องรับผิดชอบในความเสี่ยงที่อาจเกิดความเสียหายจากการขาดทุนในการเก็งกำไรในตลาด Forex เอง กล่าวคือ นักลงทุนที่ดำเนินธุรกรรมในลักษณะดังกล่าว ซื้อขาย Forex ด้วยตนเองสามารถกระทำได้ แต่ผู้ลงทุน นั้นต้องรับผิดชอบในความเสี่ยงที่อาจเกิดความเสียหายจากการขาดทุนในการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศของท่านเอง แม้กระทั่งการโดนฉ้อโกงโดยโบรกเกอร์ Forex ต่างประเทศ และเป็นที่ทราบกันดีว่าการดำเนินคดีอาจจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก

เทรดเดอร์จึงควรเลือก Forex Broker ที่มีคนไทยคอยซัพพอร์ต มีภาษาไทยรองรับ ให้เข้าใจถึงแพล็ตฟอร์มได้อย่างแท้จริง

เทรด Forex รวยเร็ว ทำได้จริงหรือไม่ มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

เทรด Forex รวยเร็วทำได้จริงหรือไม่ จากที่สัมผัสจากแวดวง Forex พบว่าสามารถทำได้จริงกับเทรดเดอร์บางท่าน แต่ก็พบเทรดเดอร์บางท่านขาดทุนมหาศาลอย่างรวดเร็ว จนบางส่วนออกจากตลาดไปได้เช่นกัน เพราะจุดเด่นของตลาด Forex คือ ทำกำไรได้ทั้งช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง แถมยังทำกำไรอย่างรวดเร็ว ตามความผันผวนที่เหวี่ยงขึ้นลง แม้จะเป็นการวางเงินด้วยจำนวนไม่มาก แต่ก็ต้องแลกมาซึ่งความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน  ดังนั้นก่อนที่จะดำเนินการเทรดในตลาด Forex  ก็ควรศึกษาข้อมูลเทคนิคคอล ความรู้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในการลงทุน หรือเก็งกำไรอย่างแท้จริงต่อไป