เปิดเผยกลยุทธ์ Forex

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายฟอร์เร็กซ์หรือequity คุณจะต้องมั่นใจก่อนว่าได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว การซื้อขายโดยที่ไม่มีแผนการก่อนนั้นจะนำคุณไปสู่ความล้มเหลว เพราะฉะนั้น ในการที่จะสำเร็จได้ในระยะยาวในการซื้อขายฟอร์เร็กซ์นั้น จะต้องรู้ถึงเป้าหมายที่ต้องการก่อน แล้ววางแผนอย่างไรให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้นได้ บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ต่างๆในการซื้อขายและเป้าหมายของมัน เพราะทุกๆคนต่างก็มีวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจวิธีการต่างๆ เพราะมันจะช่วยนำทางให้คุณรู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง ระยะยาว กับ ระยะสั้น

เปิดเผยกลยุทธ์ Forex

ก่อนที่คุณจะคิดกลยุทธ์ขึ้นมา สิ่งที่ควรถามตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกคือ คุณอยากจะซื้อขายแบบระยะยวหรือระยะสั้น ถึงแม้จะมีกลยุทธ์บางอย่างที่ใช้ได้กับทั้งสองกรณี แต่ก็มีกลยุทธ์จำนวนมากที่ใช้ได้เฉพาะแบบใดแบบหนึ่ง ดังนั้น การรู้และกำหนดระยะเวลาในการซื้อขายของคุณ จะช่วยให้คุณคัดกรองกลยุทธ์ที่ใช้ไม่ได้กับชนิดที่คุณเลือกออกไป

การซื้อขายระยะสั้น หมายถึงการื้อขายที่ใช้เวลาไม่กี่นาที จนไปถึงไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่แล้วจะเสร็จสิ้นภายในไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้ได้กำไรมาเร็ว แต่มีความเสี่ยงสูง

การซื้อขายระยะยาว หมายถึงการซื้อขายที่ใช้เวลามากกว่า24ชั่วโมงขึ้นไป และจะได้ผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ใหญ่กว่าแบบแรก การซื้อขายจากการแกว่งของตลาดนั้นก็เป็นที่นิยมในการซื้อขายแบบระยะยาว ซึ่งเราจะอธิบายอย่างละเอียดภายหลังในบทความนี้

ในเมื่อตอนนี้คุณเลือกได้ถามและตอบตัวเองแล้วว่าจะเลือกการซื้อขายแบบระยะสั้นหรือยาว เราจะมาเข้าเรื่องของกลยุทธ์ในการซื้อขายต่างๆกัน

ระดับของFibbonacci หรือ แนวรับ-แนวต้าน

ระดับของFibbonacci หรือ แนวรับ-แนวต้าน

หากคุณเคยศึกษาเกี่ยวกับฟอร์เร็กซ์มาอยู่บ้าง คุณน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ Fibbonacci มาอยู่บ้าง เรียกย่อๆว่า Fib ซึ่งจะมีเครื่องมือบอกระดับของแนวรับ และ แนวต้านของตลาด ในปัจจุบันนั้นมีเครื่องมือFibอยู่ค่อนข้างหลากหลาย แต่เราจะให้ความสนใจกับ Fib retracement และ Fib extension

Fib retracement ใช้เมื่อตลาดกำลังเป็นขาขึ้นหรือขาลง และผู้ซื้อขายก็จะต้องพยายามดูว่าตลาดจะไปในทิศทางไหน ในการจะใช้เครื่องมือนั้น คุณจะต้องเริ่มจุดจากต่ำไปสูง หรือ สูงไปต่ำ แล้วเครื่องมือจะพล๊อตระดับFibขึ้นมาให้ กลยุทธ์นี้มักใช้เพื่อการดูแนวรับและแนวต้านที่มีระดับFibประมาณ 0.618 เมื่อถึงระดับแล้วผู้ซื้อขายส่วนใหญ่จะคาดการณ์ว่าตลาดกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป แต่ผู้ซื้อขายส่วนใหญ่มักจะใช้สัญญาณนี้ในการเตือนให้มาจับตามองการเคลื่อนไหวของตลาด

Fib extensionนั้นต่างออกไปเล็กน้อยที่ว่า คุณจะมองหาตลาดที่ยังคงเป็นขาขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเพิ่งจะเปลี่ยนจากตลาดกระทิง(ขาขึ้น) หรือตลาดหมี(ขาลง) ซึ่งจะมีชื่อเล่นว่า รูปแบบABC ซึ่งสามารถดูได้ตามภาพข้างล่างนี้

ให้สังเกตจากจุดที่ต่ำที่สุดของตลาดก่อนที่จะเริ่มตีตัวขึ้น จะกำหนดให้เป็นจุดA จากนั้นก็ตามไปจนถึงจุดที่สูงสุดแล้วกำหนดให้เป็นจุดB แล้วหาจุดที่ต่ำที่สุดของขาลงนั้นแล้วกำหนดเป็นจุดC แล้วคุณจะเห็นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งในตัวอย่างนี้ ตลาดนี้มีส่วนขยายถึง 0.786 แล้วค่อยตกลงมา ข้อมูลนี้จะเป็นตัวช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด และอาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่ามันจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงหลังจากนี้

การซื้อขายจากการแกว่งตัว

จากที่ได้กล่าวไว้ใจข้างต้น การซื้อขายจากการแกว่งตัวของตลาดนั้น เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดฟอร์เร็กซ์เนื่องจากมันจะทำให้คุณสามารถได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในตลาดได้เร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องมานั่งดูทุกๆ5นาที การซื้อขายจากการแกว่งตัวของตลาดนั้นเป็นทฤษฎีที่ฟังดูเรียบง่ายแต่ปฏิบัติจริงได้ยาก

วิธีการของการซื้อขายจากการแกว่งตัวของตลาดนั้น คือการที่คุณจะตัดสินใจเข้าไปซื้อหรือขายในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วรอเวลาที่คุณจะได้รับผลเมื่อตลาดเคลื่อนไหว จากรูปข้างต้นเป็นตัวอย่าง ในช่วงระหว่างAและBนั้นจะเป็นช่วงที่คุณควรจะซื้อขายเพื่อกำไร ซึ่งมีเครื่องมืออยู่หลากหลายชนิดที่จะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดได้ เช่น ตัวบ่งชี้Stochastic หรือค่าเฉลี่ยโดยรวม เป็นต้น

แต่วิธีนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับการซื้อขายระยะสั้นเนื่องจากตลาดค่อนข้างที่จะเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ซึ่งจะทำให้คุณหาช่วงจังหวะได้ลำบาก

การScalping (ทำกำไรระยะสั้น)

Scalping

สำหรับผู้ที่มองหาการทำกำไรอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน วิธีที่เหมาะสำหรับคุณก็คือscalping ซึ่งเป็นการที่คุณเข้ามาซื้อ และคอยจับตามองเป็นเวลาไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง จนถึงจุดที่คุณจะได้กำไรจากทิศทางของตลาดแล้วทำการขาย การใช้วิธีนี้เพียงครั้งหรือสองครั้งนั้นไม่ได้ทำกำไรมากนัก ซึ่งจุดประสงค์ของวิธีนี้คือ คุณจะใช้เวลาสั้นๆแต่หลายๆครั้งต่อวันในการทำเงินขึ้นมา Scalpingนั้นสามารถใช้เวลาเพียงแค่ภายใน1นาที 5นาที หรือ10นาทีก็ได้ วิธีนี้มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง แต่หากทำได้อย่างเชี่ยวชาญและถูกต้องแล้ว คุณจะเห็นผลค่อนข้างเร็ว

และเพื่อทำให้วิธีนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณควรจะให้ความสนใจกับระดับแนวต้านแลแนวรับไว้ให้ดี รวมทั้งตั้งตัวบ่งชี้ไว้ให้เรียบร้อย เพื่อจะได้ช่วยให้คุณวิเคราะห์และหาจังหวะที่จะเข้าถึงซื้อ-ขายได้ดีขึ้น ตัวบ่งชี้ที่ควรใช้สำหรับวิธีนี้ได้แค่ RSI การเคลื่อนตัวของค่าเฉลี่ย และ Stochastic 

การซื้อขายแบบวันต่อวัน

การซื้อขายแบบวันต่อวัน

วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากจะนั่งจดจ่อตลอดเวลาแบบScalping แต่ก็ไม่อยากจะใช้เวลานานกว่า1วันแบบวิธีซื้อจากการแกว่งตัวของตลาด การซื้อแบบวันต่อวันนั้นก็เป็นตามที่ชื่อบอกเอาไว้ ก็คือซื้อ-ขายภายในช่วงเวลาของวันนั้น ซึ่งอาจจะเป็นตั้งแต่เช้าถึงเย็นครั้งเดียว หรือจะแบ่งเป็นช่วงสั้นๆหลายๆช่วงภายในวันก็ได้

กลยุทธ์นี้คุณจะต้องให้ความสำคัญกับราคาซื้อ-ขาย และเส้นระดับแนวรับ-แนวต้านภายในวันให้ดี นอกจากนั้นคุณยังต้องลองดูตลาดภาพรวมก่อนด้วยว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลงสำหรับตลาดใหญ่ การซื้อขายแบบนี้จะใช้เวลาตั้งแต่30นาทีจนถึงหนี่งชั่วโมงในการวิเคราะห์ทิศทางของตลาด แล้วเข้าไปซื้อขายภายในช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ5นาที วิธีนี้มีข้อดีคือคุณจะไม่ต้องเสี่ยงกับการถือหุ้นนั้นไว้ข้ามคืน และมีเวลามากพอที่จะรอตลาดให้ไปในทิศทางที่คุณต้องการ

ตัวบ่งชี้

ในเมื่อเราพูดถึงกลยุทธ์ต่างๆแล้ว มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องเข้าใจถึงตัวบ่งชี้หลายๆอย่างที่ใช้กับกลยุทธ์ต่างๆ ด้วยตัวบ่งชี้เหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจ และบางครั้งก็สามารถให้คุณปรับแต่งตัวบ่งชี้บนชาร์ทของคุณได้

  1. ตัวบ่งชี้ตัวแรกคือBollinger Bands ซึ่งเป็นเส้นสามเส้นที่ลากไว้เพื่อให้คุณดูทิศทางและช่วงเวลาที่ควรจะเข้าไปซื้อขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะมีSDอยู่ในแต่ละข้างจากส่วนกลาง และจะเตือนคุณเมื่อตลาดมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทิศทาง คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าของมันได้ เป็นเครื่องมือที่ผู้ซื้อขายหลายๆคนใช้อยู่เสมอ
  2. ตัวต่อมาคือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถตั้งได้เป็นระยะเวลาสั้นหรือยาวขนาดไหนก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะใช้แบบ 200วัน 50วัน และเวลาตั้งแต่5ถึง20วัน และมักจะใช้เมื่อจะตรวจสอบส่วนระยะสั้นเทียบกับระยะยาว หากเส้นเริ่มตัดกันจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าตลาดกำลังเปลี่ยนทิศทาง แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ผู้ซื้อขายส่วนใหญ่จึงต้องให้ความสนใจกับส่วนนี้ดีๆ
  3. ตัวบ่งชี้อีกชนิดคือ RSI (Relative Strength Index) ซึ่งจะแสดงที่ส่วนข้างล่างของชาร์ท ข้อมูลของมันจะยึดส่วนราคาในท้องตลาดและสามารถแสดงให้คุณเห็นว่าเกิดภาวะซื้อมากเกิน หรือขายมากเกินไป ตัวบ่งชี้นี้จะมีค่าตั้งแต่0-100 ซึ่งหากเกิน70มักจะหมายความว่าเกิดภาวะซื้อมากเกิน และหากต่ำกว่า30มักจะหมายความว่าเกิดภาวะขายมากเกิน มันจะเป็นตัวบ่งชี้ความเร็วในการเคลื่อนไหวและทิศทางของตลาดได้ และคุณสามารถตั้งช่วงเวลาและการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการซื้อขายของคุณได้

วางแผนเพื่อความสำเร็จ

ฟอร์เร็กซ์นั้นอาจดูค่อนข้างซับซ้อนและเข้าถึงยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยซื้อขายในตลาดแบบนี้มาก่อน และในการซื้อขายไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์แบบใดก็จำเป็นจะต้องมีการวางแผนและการเตรียมตัวที่ดีก่อนการลงทุน ฟอร์เร็กซ์นั้นสามารถซื้อขายได้ตลอด24ชั่วโมง 5วันต่อสัปดาห์ ซึ่งคุณจะแบ่งตารางเวลาการซื้อขายของคุณอย่างไรก็ได้

กลยุทธ์ต่างๆที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่คุณจะได้ทดลองลงการซื้อขายฟอร์เร็กซ์ คุณควรลองทำการจำลองการซื้อขายในกระดาษ หรือใช้บัญชีทดสอบก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสี่ยงโดยการใช้เงินจริงๆของคุณ มันมีกลยุทธ์หลากหลายอย่างที่ต่างกันออกไป ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และมันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าคุณสะดวกกับวิธีใดมากที่สุด อย่าลืมปรับแต่งตัวบ่งชี้ต่างๆของคุณให้อยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ แล้วก็ลองลงมือได้เลย ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้นเป็นตลาดที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลกและยืดหยุ่นมากที่สุดในโลก คุณสามารถซื้อขายที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแค่คุณต้องหาแพลตฟอร์มที่ดีและโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้และตรงกับความต้องการของคุณ หากคุณไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน คุณอาจจะต้องล้มลุกคลุกคลานในตลาดฟอร์เร็กซ์ ดังนั้น กลยุทธ์ต่างๆนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับคุณได้ในระดับหนึ่ง ขอให้คุณศึกษาให้ดี